คู่มือสำหรับ HR การพักงานลูกจ้าง
การพักงานลูกจ้างเป็นส่วนสำคัญในการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการพักงานเพื่อการสอบสวน การลงโทษทางวินัย หรือการลาอื่น ๆ บทความนี้จะช่วยให้ HR เข้าใจขั้นตอนและข้อกำหนดทางกฎหมายในการพักงานลูกจ้าง เพื่อการจัดการที่ถูกต้องและโปร่งใสในองค์กร
การพักงานลูกจ้าง คืออะไร?
การพักงานลูกจ้าง (Leave of Absence) คือการที่พนักงานหยุดการทำงานชั่วคราวตามเหตุผลที่เหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึงการลาป่วย การลากิจ หรือการลาเพื่อเหตุผลส่วนตัว และการลาเพื่อศึกษาต่อ โดยการลาจะได้รับการอนุมัติจากฝ่าย HR และเป็นไปตามนโยบายที่กำหนดไว้
ประเภทของการพักงานลูกจ้าง
1. การลาป่วย
เมื่อพนักงานเจ็บป่วยหรือไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ การขอลาป่วยอาจต้องมีใบรับรองจากแพทย์เพื่อยืนยันว่าไม่สามารถทำงานได้
2. การลากิจ
การลากิจส่วนบุคคล เช่น การไปงานศพ หรือมีเหตุฉุกเฉินที่ต้องการหยุดงานชั่วคราว โดยทั่วไปจะต้องแจ้งให้ HR ทราบล่วงหน้า
3. การลาพักร้อน
เป็นสิทธิของพนักงานที่สามารถขอลาหยุดเพื่อการพักผ่อน การท่องเที่ยว หรือการฟื้นฟูสภาพจิตใจ ซึ่งมักจะมีระยะเวลาที่จำกัดในแต่ละปี
4. การลาเพื่อการศึกษาต่อ
พนักงานบางคนอาจมีความต้องการลาเพื่อศึกษาต่อหรือเข้าร่วมการฝึกอบรมซึ่งได้รับการอนุมัติจากฝ่าย HR
การพักงานลูกจ้างภาคเอกชนตามกฎหมาย
ประเภทของการพักงานลูกจ้าง
พฤติกรรมที่มีการใช้ความรุนแรงหรือการคุกคามทางร่างกายหรือจิตใจในที่ทำงาน เช่น การทะเลาะวิวาท การข่มขู่ หรือการทำร้ายผู้อื่น จะทำให้การทำงานในองค์กรนั้นไม่สามารถดำเนินการได้ตามปกติ หากมีการกระทำเช่นนี้ นายจ้างสามารถไล่ออกได้ทันทีโดยไม่ต้องพิจารณากระบวนการเตือน
ก. การพักงานเพื่อการสอบสวน
ตามมาตรา 116 และ 117 ของ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯ การพักงานลูกจ้างที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยในการทำงานต้องมีข้อกำหนดชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้นายจ้างใช้อำนาจในการสั่งพักงานลูกจ้างโดยไม่มีเหตุผล ซึ่งอาจสร้างความเดือดร้อนให้กับพนักงาน
นายจ้างจะสามารถสั่งพักงานได้เฉพาะเมื่อ:
- ลูกจ้างถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยในการทำงาน
- นายจ้างต้องการสอบสวนลูกจ้างและสั่งพักงานในระหว่างการสอบสวน
- ข้อบังคับขององค์กรหรือข้อตกลงการจ้างงานระบุว่า นายจ้างมีสิทธิ์ในการสั่งพักงาน
- นายจ้างแจ้งให้ลูกจ้างทราบก่อนการพักงาน
การพักงานตามมาตรา 116 จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไข 4 ข้อดังกล่าว หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย นายจ้างอาจถูกดำเนินคดีทางอาญา
ในระหว่างการพักงาน ลูกจ้างจะได้รับค่าจ้างตามอัตราที่กำหนดในข้อบังคับหรือตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งจะต้องไม่น้อยกว่า 50% ของค่าจ้างในวันทำงานก่อนการพักงาน หากการสอบสวนเสร็จสิ้นและพบว่าลูกจ้างไม่ผิด นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างทั้งหมดในช่วงเวลาที่พักงาน พร้อมดอกเบี้ย 15% ต่อปี
ข. การพักงานในลักษณะการลงโทษทางวินัย
กรณีที่การพักงานเป็นการลงโทษทางวินัย นายจ้างสามารถดำเนินการพักงานได้ตามข้อบังคับหรือข้อตกลงในองค์กร ซึ่งอาจเป็นการพักงานเพื่อเตือนหรือเป็นการลงโทษ สำหรับการพักงานที่ไม่ได้ระบุระยะเวลาหรือไม่จ่ายค่าจ้างอาจถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และอาจถูกตีความว่าเป็นการเลิกจ้างลูกจ้างตามมาตรา 118
หากการพักงานเกี่ยวข้องกับกรรมการลูกจ้าง นายจ้างต้องขออนุญาตจากศาลแรงงานก่อนจึงจะสามารถสั่งพักงานได้ หากไม่ได้ขออนุญาตจากศาลและทำการพักงานทันที นายจ้างอาจได้รับโทษทางอาญา
ขั้นตอนในการจัดการการพักงานลูกจ้าง
1. การพักงานในลักษณะการลงโทษทางวินัย
การขอลาพักงานต้องมีเหตุผลที่ชัดเจนและเป็นไปตามข้อกำหนดที่องค์กรกำหนด HR ควรตรวจสอบข้อมูลให้แน่ใจว่าเป็นไปตามข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และตรวจสอบเงื่อนไขในการลา
2. การจัดทำเอกสารและขออนุมัติ
การลาในรูปแบบต่าง ๆ ต้องผ่านการขออนุมัติจากผู้บังคับบัญชาหรือฝ่ายบริหาร HR ควรจัดทำเอกสารให้ครบถ้วนเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้อง
3. การวางแผนงานระหว่างการพักงาน
เพื่อไม่ให้การหยุดงานของพนักงานส่งผลกระทบต่อการทำงาน HR ควรจัดทำแผนงานระหว่างการลา โดยการมอบหมายงานให้พนักงานคนอื่นหรือกำหนดมาตรการทดแทนที่เหมาะสม
4. การติดตามผลการพักงาน
หลังจากพนักงานกลับมาทำงาน HR ควรติดตามการกลับมาให้เหมาะสม และประเมินว่ามีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานหรือไม่ รวมถึงประเมินสภาพจิตใจของพนักงานหลังจากการลา
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพักงานลูกจ้าง
ในด้านกฎหมายแรงงาน การพักงานลูกจ้างมีข้อกำหนดที่ HR ควรทำความเข้าใจ เพื่อให้การปฏิบัติตามกฎหมายเป็นไปอย่างถูกต้อง ตัวอย่างเช่น:
1. กฎหมายคุ้มครองการลาเจ็บป่วย
พนักงานที่ลาป่วยสามารถได้รับการคุ้มครองจากการเลิกจ้างในระยะเวลาที่กำหนดตามกฎหมาย
2. การลาเพื่อเหตุผลส่วนตัว
การลาเพื่อเหตุผลส่วนตัวควรได้รับการอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาและต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดที่ชัดเจนของบริษัท
การป้องกันปัญหาจากการพักงานลูกจ้าง
เพื่อให้การดำเนินการลาเป็นไปอย่างราบรื่น HR ควร
1. ทำความเข้าใจกับพนักงานเกี่ยวกับนโยบายการลา
สื่อสารให้อย่างชัดเจนถึงสิทธิและหน้าที่ของพนักงานในเรื่องการขอลา เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด
2. การบันทึกการลาให้ครบถ้วน
ระบบการบันทึกการลาควรสามารถติดตามได้ง่ายเพื่อให้มีข้อมูลที่สามารถอ้างอิงได้
3. การมีแผนสำรอง
ในกรณีที่พนักงานลาหยุดงาน HR ควรวางแผนสำรองการทำงานเพื่อไม่ให้กระทบต่อการทำงานในองค์กร
สรุป
การพักงานลูกจ้างถือเป็นสิทธิที่พนักงานสามารถใช้ได้ในหลายกรณี แต่การจัดการการลาให้ถูกต้องตามขั้นตอนและกฎหมายจะช่วยให้ทั้งบริษัทและพนักงานมีความเข้าใจที่ดีขึ้น และลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การดำเนินการที่มีประสิทธิภาพจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและประสิทธิภาพในการทำงานระยะยาว
น้องบีพลัสมีโปรแกรมเงินเดือนที่จะช่วยให้งาน HR ง่ายขึ้นและลดเวลาการทำงาน เช่น การจัดการการลา การเก็บข้อมูลพนักงาน รวมถึงประวัติการทำงานและความประพฤติ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการพิจารณาการพักงาน หรือใช้เป็นหลักฐานยืนยันตามกฎหมายหากพนักงานมีความผิดจริง นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่ช่วยจัดการงาน HR อย่างครบวงจร เช่น การคำนวณเงินเดือนทั้งแบบพาร์ทไทม์และฟูลไทม์ และการจัดทำเอกสารสำหรับส่งสรรพากรและประกันสังคม โปรแกรม Payroll ของ Bplus ช่วยให้การทำงานในด้านต่าง ๆ เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
ที่มา Facebook อาจารย์ Narongrit Wannaso