คู่มือการเลือกโปรแกรม HR สำหรับบริษัท อัปเดตปี 2025
การเลือกโปรแกรม HR ที่เหมาะสมสำหรับบริษัทถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการทรัพยากรบุคคล และลดความซับซ้อนในการทำงานในองค์กร ในบทความนี้ เราจะมาดูปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกโปรแกรม HR พร้อมอัปเดตข้อมูลล่าสุดและคำแนะนำที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีสมัยใหม่
ปัจจัยสำคัญในการเลือกโปรแกรม HR สำหรับบริษัท
1. ความครอบคลุมของฟังก์ชันการทำงาน
โปรแกรม HR ที่ดีควรมีฟังก์ชันที่ครอบคลุมทุกด้านของการจัดการทรัพยากรบุคคล เช่น การจัดการเงินเดือน (Payroll) การลางาน (Leave Management) การประเมินผลงาน (Performance Evaluation) และการจัดการข้อมูลพนักงาน (Employee Database)
โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์: ควรมีระบบคำนวณเงินเดือนที่แม่นยำและรองรับกฎหมายแรงงานล่าสุด
โปรแกรมลาออนไลน์: ช่วยให้พนักงานสามารถยื่นใบลาผ่านระบบได้สะดวก และ HR สามารถจัดการข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ
2. ความสะดวกในการใช้งาน (User-Friendly)
โปรแกรม HR ควรมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ทั้งสำหรับฝ่าย HR และพนักงานทั่วไป โดยเฉพาะระบบที่รองรับการทำงานผ่านมือถือหรือแท็บเล็ต เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน
3. ความปลอดภัยของข้อมูล
ข้อมูลทรัพยากรบุคคลเป็นข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน ดังนั้นโปรแกรม HR ควรมีระบบความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง เช่น การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) และการสำรองข้อมูลอัตโนมัติ (Backup)
4. การรองรับการทำงานแบบออนไลน์
ในยุคที่การทำงานแบบ Remote Work และ Hybrid Work กำลังเป็นที่นิยม โปรแกรม HR ควรเป็น e-HRM (Electronic Human Resource Management) ที่สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา จะบนเว็บไซต์หรือบนโปรแกรมออนไลน์ก็ควรเป้นพื้นฐานการใช้งาน
5. การเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ
โปรแกรม HR ควรสามารถเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ ในองค์กรได้ เช่น ระบบบัญชี ระบบ ERP หรือแม้แต่ระบบสวัสดิการพนักงาน เพื่อลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
อัปเดตเทรนด์โปรแกรม HR ปี 2025
1. การใช้ AI และ Machine Learning
โปรแกรม HR ยุคใหม่เริ่มนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลพนักงาน เช่น การคาดการณ์อัตราการลาออก หรือการแนะนำหลักสูตรฝึกอบรมที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
2. การบูรณาการกับระบบสวัสดิการ
โปรแกรม HR หลายแห่งเริ่มมีการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มสวัสดิการพนักงาน เช่น บัตรสวัสดิการ หรือโปรแกรมสุขภาพออนไลน์
3. การปรับตัวเพื่อรองรับกฎหมายใหม่
โปรแกรม HR ควรอัปเดตให้สอดคล้องกับกฎหมายแรงงานและภาษีล่าสุด เช่น การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือการจัดการวันลาตามกฎหมาย
ตัวอย่างโปรแกรม HR ที่น่าสนใจ
Bplus e-HRM
Bplus ถือว่ารวมครบทุกฟังก์ชัน ที่กล่าวมาเป็นหนึ่งในโปรแกรม HR ที่ได้รับความนิยมในทุกบริษัท ทั่วประเทศไทย เนื่องจากมีฟังก์ชันที่ครอบคลุมทั้งการจัดการเงินเดือน การลางาน และการประเมินผลงาน นอกจากนี้ยังรองรับการทำงานแบบออนไลน์ ทำให้เหมาะกับองค์กรที่ต้องการความยืดหยุ่น
โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์
โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์ช่วยให้บริษัทสามารถคำนวณเงินเดือนได้อย่างแม่นยำ และลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการคำนวณด้วยมือ
โปรแกรมลาออนไลน์
ระบบลาออนไลน์ช่วยให้พนักงานสามารถยื่นใบลาได้ผ่านระบบอัตโนมัติ และฝ่าย HR สามารถจัดการข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ
ระบบบันทึกเวลา อัจฉริยะ ออนไลน์
ระบบนี้ไม่ว่าพนักงาน จะอยู่ที่ไหน HR สามารถกำหนดพิกัด สำหรับการเช็คอินเข้าทำงานของพนักงานได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องแสกนนิ้ว ไม่ต้องตอกบัตร เก็บทุกประวัติการเข้าใช้ แจ้งเตือนทุกความผิดปกติ และฝ่าย HR สามารถจัดการข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ ตรวจสอบได้อย่างแม่นยำ
สรุป
การเลือกโปรแกรม HR ที่เหมาะสมสำหรับบริษัทควรพิจารณาจากความครอบคลุมของฟังก์ชันการทำงาน ความสะดวกในการใช้งาน ความปลอดภัยของข้อมูล และการรองรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น AI และ e-HRM โปรแกรมอย่าง Bplus e-HRM และระบบเงินเดือนออนไลน์ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับองค์กรที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการทรัพยากรบุคคล
ด้วยการเลือกโปรแกรม HR ที่เหมาะสมและอัปเดตตามเทรนด์ล่าสุด บริษัทของคุณจะสามารถจัดการทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดได้อย่างแน่นอน
เขียนโดย AI